ยามาฮ่า ทีมไทยแลนด์ แถลงร้อนทิศทางมอเตอร์สปอร์ต หลังจบเกมศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2018

บุรีรัมย์ - นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ในฐานะกุนซือสำคัญของทีมแข่งรถจักรยานยนต์ระดับโลกของไทย ยามาฮ่า ทีมไทยแลนด์ พร้อมสองนักแข่งสังกัดทีม ยามาฮ่า ทีมไทยแลนด์ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ และ เดชา ไกรศาสตร์ ร่วมแถลงข่าวหลังจบการแข่งขัน World Superbike 2018 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ถึงทิศทางของทีม ยามาฮ่า ทีมไทยแลนด์ ต่อวงการมอเตอร์สปอร์ต และทิศทางการเติบโตและการวางแผนเข้าร่วมในกิจกรรมการแข่งขันต่างๆนับจากนี้

โดย “กุนซือช้อง” นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล พ่อมดความเร็วแห่งทีมยามาฮ่า ทีมไทยแลนด์ ได้กล่าวถึงการร่วมสู้ศึกความเร็วสองล้อทางเรียบรายการ ศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 ในรุ่น เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต ที่ 2 นักแข่งไทยสังกัดทีมยามาฮ่า ลงร่วมกรำศึก เคียงบ่า เคียงไหล่นักบิดระดับโลกในวันนี้ นับเป็นปีที่ 3 แล้ว ในอดีตเราเข้าถึงการแข่งขันนี้ได้ยากมาก นักแข่งไทยจะมีคะแนนสะสมซักแต้มนั้นยากมาก แต่วันนี้นักแข่งยามาฮ่า ของไทยสามารถเข้ามาร่วมสู้ศึก เวิล์ด ซูเปอร์ไบค์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ “ตั้น สลาตัน” เดชา ไกรศาสตร์ มือเก๋าแห่งทีมยามาฮ่า ทีมไทยแลนด์ จบตำแหน่งที่ 13 ยอมรับตั้งเป้าสนามนี้ไว้สูง เปลี่ยนรถใหม่ แต่เวลาซ้อมน้อย ยอมรับว่ามีปัญหามาตลอดในการทดสอบสนามและรถ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว เพราะแม้จะไม่สามารถทำผลงานได้ดีเช่นปีที่แล้ว ที่สามารถคว้าอันดับ 2 ได้ในปีก่อน แต่ปีนี้ก็ถือว่าได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ พร้อมปรับตัวเข้ากับรถใหม่มากกว่าเดิม

สนามนี้ “ซูเปอร์โฟล์ท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ทายาทตำนานความเร็วอย่าง “คริสมาส วิไลโรจน์” และยังเป็นน้องชายแท้ๆของ นักบิดโมโตทูระดับโลก “ฟิลม์ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” ยอมรับในผลงาน เข้าที่ 8 และยอมรับว่าทำเต็มที่ แม้ห่างการขี่มานานหลายปี แต่การกลับมาและสามารถสร้างผลงานได้ขนาดนี้ ทางทีมบอกว่าสามารถทำได้ดีแล้ว มองว่าถ้าในช่วงเวลาต่อไปนั้น เชื่อว่าจะสามารถทำผลงานของตนเองออกมา ได้ดีขึ้นแน่นอน ด้วยเพราะสามารถปรับตัวเข้ากับ รถแข่งตัวล่าสุด Yamaha YZF3R6 ได้เป็นอย่างดี แต่ผลการแข่งขันที่ตนสามารถทำได้ตำแหน่งที่ 8 ของการแข่งขันนั้น ต้องบอกว่า กว่าจะได้มาต้องแลกด้วยอุปสรรค และความท้าทายหลายสิ่ง กับคำถามที่ว่า นักแข่งระดับโลกแตกต่างกับเราอย่างไร โฟล์ทเล่าว่า ด้วยฝีมือ ด้วยเทคนิคการขับ เขามาแน่นกว่าเรามาก แค่ความเร็วยังไม่พอครับ เพราะจุดเบรกเขาก็สามารถทำได้ลึกกว่าเราแล้ว แถมขี่ได้สม่ำเสมอ เรียกว่าแม่นมากๆ ด้าน“ตั้น สลาตัน” เดชา ไกรศาสตร์ กล่าวเสริมว่า รถเราดีแต่เชื่อว่ายังต้องขยับตามเขาอีกมากพอสมควร คงต้องเก็บประสบการณ์และพยายามทำให้ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่า เราคงจะทำได้ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ

“กุนซือช้อง” ธีระพงษ์ โอภาสกรกุล กล่าวว่า ด้วยมาตรฐานของทีมแข่งระดับโลก วันวานที่เขาเริ่มต้นเข้ามา เรานี่เหมือนลูกทุ่งมาก ไม่รู้ ไม่มีอะไรเลย แต่วันนี้เราเทียบเท่าในเรื่องของมาตรฐานในการทำทีม แต่การสร้างความเสถียรในทีม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถ วันนี้เราต้องเก็บข้อมูลมากยิ่งขึ้น ทุกอย่างดีกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ยังต้องเดินไปให้ถึงจุดที่สูงกว่านี้ เชื่อมั่นเราทำได้

ติดตามเทปบันทึกภาพการแถลงข่าวประเด็นดังกล่าวได้ทาง

เพจข่าวไทยเทเลกราฟ Thaitelegraph ตามลิงค์นี้...

https://www.facebook.com/thaitelegraph/videos/207695363150719/

อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com