Honda HRV-EL ลองขับไขข้อข้องใจ ยุคน้ำมันแพง (ตอน 1)

สวัสดีครับทุกท่าน ก็อย่างที่บอกตามจั่วหัวกันเลย ว่างานนี้เป็นการนำรถตัวล่าสุดของฮอนด้า ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยรุ่นหนึ่งที่เห็นกันว่า ออกมาวิ่งกันแน่นถนนไปหมด มาหาคำตอบที่ผมเองต้องบอกว่าข้องใจ และหาคำตอบให้กับการตัดสินใจ(ส่วนตัว) และพลอยเอามาเป็นประเด็นที่จะหาเรื่องมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้เสริมมุมคิดกันนิด กับการเลือกหารถซักคันในยุคนี้ ที่ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในบ้านเรามันถีบตีวสูงขึ้นทุกวันๆ

ตัวผมเองมีรถที่ใช้งานรวมกับพี่ๆที่บ้านก็หลายคัน หลายประเภท ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ ส่วนตัวเดินทางไปไหนก็บอกตรงๆว่าชอบใช้รถกระบะ เพราะมันบึกบึน ทนทาน และแน่นอนว่าคิดว่าน้ำมันดีเซลมันประหยัดสุดแระในยุคนี้ แต่พอน้ำมันดีเซลมันขึ้นเอาๆ ราคาของต้นทุนการเดินทางก็เปลี่ยนไป ผมเชื่อว่าหลายคนที่ตัดสินใจเลือกรถดีเซล ในปัจจุบันต้องคิดบ้างแหละนะว่า รู้งี้เลือกรถเบนซินดีกว่า ราคาน้ำมัน มันเท่ากัน เสมอกันจนแยกไม่ออกแล้ว มัวขับรถควันดำกันอยู่ทำไม

ผมก็มองว่าในยุคนี้ น้ำมันเชื้อเพลิงที่เห็นว่าราคาสูสีกับแก๊ส NGV LPG คงหนีไม่พ้นน้ำมันตัว เบนซิน อี 85 (Gasohal E85) แน่นอนว่ามีบทความมากมายที่เสนอออกมาว่า เมื่อใช้ E85 วิ่งนั้น ระยะทางต่อกิโลเมตร อาจจะได้น้อยกว่าน้ำมันตัวอื่นๆที่เป็น แก๊สโซฮอลล์ด้วยกันอย่างเช่น E20 / Gasohal 91 / Gasohal 95 แต่รอบนี้ผมเอาความที่ผมต้องขับรถเดินทางทำงานประจำอยู่บนเส้นทางเดิมๆ ระยะทางเดิมๆ ความเร็วเดิมๆบนถนนเดิมๆที่คุ้นชิน มาลองวัดดูระหว่างการใช้รถเพื่อปัจจุยในการเดินทางไปทำงานด้วยรถที่ต่างแบบ กับไลฟ์สไตล์เดิมๆ เรามาดูกันครับว่าความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไรบ้าง

เขียนมาตั้งนาน เห็นรูปรถก็ร้องอ๋อ ใช่แล้วรถที่นำมาขับมาลองในทริปนี้คือ Honda HRV-EL ฮอนด้า เฮชอาร์วี อีแอล รถแบบ Midsize MPV คันย่อมนี่เอง หลายคนอาจจะงงว่าทำไมผมเรียกมันว่า Midsize MPV ขอขยายความนิดนะครับ Honda HRV มีพื้นฐานในโครงสร้างใกล้เคียงกับรถในอนุกรม Honda Brio Honda BRV มันเป็นรถขนาด Midsize หรือตัวถังขนาดเล็กและขยายตัวรถให้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เรียกว่ารูปทรงออกมาเป็นรถขนาดกลางๆ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ จึงใช้คำว่า Midsize มาเป็นตัวกำหนดขนาดรถ ส่วน MPV นั้นมาจากคำว่า Multi Purpose Vehicle ซึ่งในความหมายของมุมมองผม มันคือรถที่รองรับการใช้งานที่หลากหลายกว่ารถเก๋ง ผู้โดยสารนั่งได้มากเท่ารถแวน บรรทุกได้เกือบเท่ารถกระบะ ลุยได้คล้ายรถ SUV หรือรถอเนกประสงค์สไตล์ขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ว่าที่สุดแล้วมันก(ยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะมันแค่คล้ายเท่านั้น แต่ ฮอนด้า เฮชอาร์วี (Honda HRV-LE) ขับเคลื่อนสองล้อหน้าเท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นรถที่ทรงเหมือน แต่ประโยชน์ใช้สอยได้ไม่ครบเหมือน SUV เท่านั้นเอง

มีรุ่นพี่ผมถามว่า แล้วแกใช้เกียร์ 4wd ปีหนึ่งกี่ครั้ง เอารถไปวิ่งในทาง Off-road มากแค่ไหน นั่นสิ...!!! ผมเองก็ถามตัวเองแบบนั้นเหมือนกัน อย่างรถกระบะ 4wd คันที่ผมขับประจำ เป็น Mitsubishi Triton ออกมาป้ายแดงเลยตั้งแต่ปี 2009 ถึงวันนี้รถมีอายุมา 9 ปีแล้ว อิอิ...วิ่งไปแค่ 148,000 กม.เท่านั้นเอง วิ่งทาง Off – road นับได้ไม่ถึง 200 กิโลเมตรในระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา แล้วเมื่อเราจะหารถคันต่อไป ถ้าเป็นท่านผู้อ่านท่านคิดว่าเราจำเป็นต้องหารถ 4wd มาใช้ด้วยการจ่ายเงินแพงๆ หารถที่วิ่งผ่านอุปสรรคยากลำบากแบบนั้น ที่ในรอบ 9 ปี ใช้รถวิ่งผ่านไปในระยะทางไม่ถึง 200 กิโลเมตร ท่านคิดว่าผมจำเป็นมั้ยครับ...555

ผมเลยมองว่างั้นหาโจทย์รถที่ขับสบาย ไม่ค่อยกระเด้งกระดอนมากนัก ราคาไม่แพงมาก คุณภาพดี บริการดี อะไหล๋หาง่าย ดูแลง่าย สปอร์ต สวยงามสมราคา ฮอนด้า เฮชอาร์วี (Honda HRV-EL) จึงเป็นหนึ่งในหลายๆคันที่เป็นเป้าหมายที่เอามาเปรียบเทียบ ลองขับหาฟิลลิ่ง และขับแล้วเอามาเล่าให้ฟังกันครับ

หลังจากขอความอนุเคราะห์จาก ฮอนด้า ออโตโมบิล ในการหารถมาลองขับ ลองทดสอบฟิลลิ่งการขับ การใช้งานในทริปนี้ ผมได้รับความกรุณาจาก ฮอนด้า ออโตโมบิล นำรถ ฮอนด้า เฮชอาร์วี (Honda HRV-EL) นำมาให้ผมได้ลองกันในครั้งนี้ ขอบพระคุณมากครับ

รับรถเสร็จ เดินรอบคัน มองถึงรูปลักษณ์และทรวดทรงพร้อมเปิดแคตตาล๊อคว่าด้วยสเปกรถกันเลยทีเดียว ฮอนด้า เฮชอาร์วี คันนี้เป็นรถในรุ่น LE (Honda HRV-EL) เรียกว่าเป็นตัวกลางๆ ยังไม่ถึงตัวท๊อป สนนราคาก็อยู่ที่ราคา 1,059,000 บาท ไม่ถูกนัก แต่ก็แลกมาด้วยคุณสมบัตอหลายอย่างที่โดดเด่นเช่น เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่และที่สำคัญ มันรองรับพลังงานทางเลือกอย่างน้ำมัน E85 (Gasohal E85) ที่แน่นอนว่าด้วยราคาและสมรรถนะของพลังงานตัวนี้ เป็นที่ประจักว่ามีส่วนต่างราคาและสมรรถนะที่ดีพอให้เป็นทางเลือกแบบถาวรในการใช้รถในอนาคตต่อจากนี้ นอกจากนั้น ฮอนด้า เฮชอาร์วี (Honda HRV-EL) ยังมี Option หลายตัวที่เห็นแล้วว่าทันสมัย และมีประโยชน์นั่นก็คือ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) สำหรับรุ่น EL จะมีการติดตั้ง ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ซึ่งมากกว่ารถมาตราฐานคือ HR-V E Spec

หน้าตาของรถมีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทันสมัยและสปอร์ตขึ้นนะ ในรุ่น EL กระจังหน้าเป็นโครเมียมรมดำ ไฟตัดหมอกใต้กันชนหน้าจะเป็นไฟฮาโลเจนทรงกลม ไฟท้ายจะเป็น LED ลายใหม่ "Tube" 2 ออกแบบให้เป็นแนวนอน และมีสีสโมคหรือรมดำ ให้มันขรึมขึ้น

มาถึงระบบช่วงล่าง ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape มาพร้อมการติดตั้ง ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อม ABS พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (EPS) ล้อขนาด 17 นิ้วและยาง 215/55 R17 ความทันสมัยยังไม่จบแค่นี้เพราะได้เสริมระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยมาอีกหลายสิ่ง เรียงหน้ามาหลายระบบด้วย เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม เช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) เรียกว่าถ้าจะเสียเงินในกระเป๋ามากถึง 1,059,000 บาท ฮอนด้า เฮชอาร์วี (Honda HRV-EL) ตัวนี้ก็มีของมาให้พร้อมมูล เรียกได้ว่าถ้าผมจะขยับจากกระบะ 4wd ที่เคยจ่ายเงินเจ็ดแสนปลายๆมาคบรถใหม่ล่าสุดราคาขยับขึ้นล้านบาท ความปลอดภัยหลากหลายก้จะมากขึ้น สมรรถนะดี และที่สำคัญมีความสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม มันก็น่าสนใจไม่น้อย เดี๋ยวเรามาว่ากันถึงการขับขี่ ลองรถ วิ่งกันยาวๆกว่า 1,400 กิโลเมตร ว่าผมจะรู้สึกและรถมีสมรรถนะ และสะท้อนความน่าสนใจมากน้อยเพียงใดกันครับ

อมร วรมาลี amornthaitelegraph@gmail.com

ขอขอบคุณ : ฮอนด้า ออโตโมบิล

---